แรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ
ในช่วงชีวิตของคนเราเราต่างคนต่างก็เผชิญ
กับความยุ่งยากและปัญหากันทุกคน เราทุกคนต่างก็ต้องต่อสู้ชีวิตเพื่อจะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแต่ในช่วงชีวิตที่เราเกิดมานั้น เราเคยสังเกตหรือรู้ไหมว่ามีคนคอยอยู่ คอยพยุงเราในยามที่เราไม่มีความหวัง คอยช่วยเราจนเราได้เป็นเราในวันนี้ หรือแม้กระทั่งในวันที่เราล้มเหลวทำอะไรไม่ได้เลย แต่ในที่สุดเราก็ผ่านวิกฤตินั้นมาจนได้ มาจนถึงซึ่งความสำเร็จในชีวิตและการงาน
วันนี้ ดิฉันขอแบ่งปันเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและความสำเร็จที่ได้มาและขอแนะนำตัวว่าดิฉันเป็นใครและอะไรที่ทำให้ดิฉันมีชีวิตที่ประสบกับความสำเร็จ
ดิฉันชื่อ ปนัดดา ธาราพรคีรี (คาเรน) ดิฉันเกิดในป่าที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ดิฉันสูญเสียคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่อายุประมาณ 6 ขวบ จึงทำให้ดิฉันไม่มีที่พึ่ง ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีความหวังใดๆและไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าที่จะใส่ ดิฉันมีเสื้อผ้าชุดเดียว นั่นคือชุดที่ใส่อยู่ตอนที่ยังมีพ่อมีแม่ ใส่ชุดเดียวนี้จนมันคับและเป็นผ้าขี้ริ้ว ไม่มีเสื้อสับเปลี่ยนเลย ต่อมา ดิฉันได้เข้ามาที่กรุงเทพฯ อยู่ในบ้านเด็กกำพร้า ดิฉันตั้งใจเรียนอย่างหนักเพราะดิฉันอยากเป็นคนฉลาด ดิฉันทำดีที่สุดที่ความสามารถจะทำได้จนกระทั่งได้มาที่พัทยา เมื่อมาถึงพัทยา ดิฉันไม่ได้รู้เรื่องของเมืองพัทยาว่าเป็นอย่างไร ดิฉันไม่มีประสบการณ์ในการทำงานเลย มาแบบไม่มีเงินติดตัวมาด้วย ก็เริ่มหางานทำและได้ทำงานหลายที่เพื่อหาประสบการณ์ เมื่อมีประสบการณ์แล้ว ดิฉันก็ยังมองไม่เห็นอนาคตของตนเองเลย ไม่มีความหวังเลยด้วย ทำงานเป็นแต่ลูกจ้างมาตลอด ในที่สุดดิฉันก็ตัดสินใจเปิดธุรกิจของตนเองเพื่อจะดูว่า ดิฉันจะไปได้ไกลแค่ไหนแทนที่จะมานั่งและรู้สึกไม่ดี รู้สึกเศร้าและรู้สึกว่าไม่มีความหวัง
ดิฉันเริ่มธุรกิจในนาม “คาเรน เซอร์วิสเซส” การเริ่มต้นนี้ยากมากเนื่องจากดิฉันยังทำการตลาดไม่เก่ง แต่เพราะดิฉันไม่กลัวที่จะเริ่มและทำให้ดีสุดความสามารถที่มี ในวันนี้ ดิฉันสามารถที่จะพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่า ธุรกิจของดิฉันนั้นประสบความสำเร็จและชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น
หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ดิฉันทำได้อย่างไรและดิฉันก้าวมาถึงวันนี้และยังมีชีวิตอยู่พร้อมกับมีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยได้อย่างไร? ดิฉันเองก็เคยถามตัวดิฉันเองเช่นกัน ดิฉันจึงได้นับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับดิฉันและได้พบว่ามีบุคคลที่เป็นเงาแห่งความสำเร็จและเป็นผู้ที่ทำให้ฉันมีทุกสิ่งในวันนี้
แรงบันดาลใจและความสำเร็จของดิฉันมีบุคคลสำคัญสองท่านดังนี้
คุณ เจษฏาภรณ์ ศรีบู่
ดิฉันได้พบและรู้จักกับคุณ เจษฏาภรณ์ ศรีบู่ ตอนที่มาพัทยา ท่านเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลในการทำธุรกิจกับดิฉันมาก เนื่องจากท่านเป็นคนที่ใจดีมาก ท่านได้สอนหลายสิ่งหลายอย่างในการทำธุรกิจและการตั้งราคาสินค้าต่างๆ ตลอดจนการนำเสนอสินค้าและการสื่อสารกับลูกค้า! ดิฉันได้เรียนรู้จากท่านมากมาย ท่านสอนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ท่านมีแต่ช่วยตลอดมา
พ.ต.อ. วรัณรพีร์ อิสริยพัฐ
ดิฉันพบกับท่านโดยการไปเป็นล่ามแปลภาษาที่ตรวจคนเข้าเมือง ดิฉันดีใจและขอบคุณที่ได้พบกับท่าน หลังจากที่ได้พบท่านแล้วดิฉันก็มีโอกาสไปเป็นล่ามแปลภาษาอีกหลายๆครั้ง และท่านได้พบว่าดิฉันรู้เรื่องงานธุรกิจและทำธุรกิจเป็น แต่ดิฉันไม่มีงบการเงินหรือผู้ช่วยในการเปิดทำธุรกิจ ท่านได้ถามดิฉันและย้ำกับดิฉันหลายๆครั้งว่า ถ้าทำธุรกิจเอง ทำได้ไหม? เพื่อดิฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งทำงานเป็นลูกจ้าง สิ่งที่ดิฉันตอบคือ “ทำได้ค่ะ” และโดยคำตอบนี้เอง ท่านได้ให้โอกาสดิฉันในการทำธุรกิจและได้ลงทุนเปิดบริษัทให้ดิฉัน!
จริงๆแล้ว เราไม่ควรจะมานั่งบ่น ทำตัวไม่มีความหวัง แต่เราควรจะขอบคุณที่ยังมีคนดีๆอีกมากมายรอบตัวที่พร้อมช่วยให้เราสามารถยืนและก้าวไปข้างหน้าได้ จงขอบคุณที่คนเหล่านั้นได้ช่วยและให้โอกาสเรา เขาเหล่านั้นคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จในชีวิตและการงานของเรา
วันนี้ ดิฉันจึงขอใช้โอกาสนี้ ที่จะกล่าวว่า ขอบคุณคุณ เจษฏาภรณ์ ศรีบู่และขอบคุณพ.ต.อ. วรัณรพีร์ อิสริยพัฐ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ “แรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จ” ของดิฉัน ขอบคุณที่ให้โอกาส ให้ความหวังและให้ชีวิตที่ดีค่ะ
ดิฉันหวังว่า หนังสือของดิฉันหรือประสบการณ์ของดิฉัน เรื่องราวของดิฉัน อาจจะเป็นแรงบันดาลใจ เป็นตัวอย่างให้ใครได้ต่อสู้ได้และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับที่ดิฉันได้มา
ผู้เขียนบทความ นางสาว ปนัดดา (คาเรน) ธาราพรคีรี